Omega 3 ( โอเมก้า 3 ) สารอาหาร บำรุงสมอง ดี ๆ ที่มีความจำเป็นต่อการทำงานของ สมอง และ ร่างกาย ที่ ร่างกาย ไม่สามารถสร้างขึ้นได้เอง เราทุกคนจึงต้องรับ Omega 3 จากอาหารที่รับประทานเข้าไป โดย กรดไขมัน จาก Omega 3 ( โอเมก้า 3 ) เป็น ไขมันดีต่อร่างกาย
ซึ่ง กรดไขมัน โอเมก้า 3 แบ่งออกได้เป็น 3 ชนิด คือ
กรดไขมัน EPA ที่ช่วยลดการอักเสบต่าง ๆ ของร่างกาย และยังช่วยลดความเครียด อีกด้วย
กรดไขมัน DHA ที่เป็น กรดไขมัน ที่มีความสำคัญต่อในการพัฒนา และยังทำหน้าที่ของระบบประสาท และระบบสมอง เพราะเป็นส่วนประกอบของเซลล์สมองได้ถึง 65% และยังเป็นส่วนประกอบหลักของเซลล์จอประสาทตาอีกด้วย ซึ่งเด็กที่ได้รับ DHA อย่างเพียงพอนั้นจะส่งผลให้มองถูกพัฒนาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีการพัฒนาด้าน ความจำ ระยะสั้น ๆ ซึ่งจะส่งเสริมให้เด็กมีสมาธิจดจ่อกับการเรียนรู้ได้ดีขึ้นด้วย และในทางกลับกัน หากเด็ก ๆ ได้รับ DHA ไม่เพียงพอนั้นจะส่งผลต่อระบบของการมองเห็น และอาจทำให้เด็ก ๆ มีอาหารสมาธิสั้นได้
กรดไขมัน ALA ซึ่งเป็นกรดไขมันที่เริ่มต้น ที่พบได้ ในน้ำมันเมล็ดแฟลกซ์ น้ำมันคาโนลา ถั่วเหลือง และน้ำมันวอลนัท ที่ ร่างกาย สามารถเปลี่ยนรูปนำไปสังเคราะห์ให้เกิด EPA และ DHA นั้นต่อไป
นี่จึงเป็นสาเหตุสำคัญที่เราทุกคนควรได้รับประทานอาหาร บำรุงสมอง ที่มี กรดไขมัน Omega 3 ( โอเมก้า 3 ) อย่างเพียงพอ ต่อวัน
หากพูดถึง โอเมก้า 3 ( Omega 3 ) หลาย ๆ คนมักนึกถึงอาหารปลาทะเลน้ำลึก อย่างเช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ที่หายากและราคามักจะแพง แต่แท้จริงแล้วยังมีวัตถุดิบที่อุดมไปด้วย โอเมก้า 3 ที่สามารถหาซื้อได้ง่าย วันนี้เราจะมาแนะนำ อาหาร บำรุงสมอง ที่อุดมไป โอเมก้า 3 ด้วยกัน เช่น
ผักโขม เป็นผักใบเขียวที่เราทุกคนต่างคุ้นหน้าคุ้นตากันอย่างดี ซึ่งใน ผักโขม ในประมาณครึ่งถ้วยจะมี โอเมก้า 3 ( Omega 3 ) ชนิด ของ กรดไขมัน ชนิด แอลฟา ไลโนเลนิก ( ALA ) ประมาณ 100 มิลลิกรัม และรวมถึงสาร ต้านอนุมูลอิสระ และ สารอาหาร ที่มีส่วนช่วยในการร้างเซลล์สมองของเราทุกคน
ทุกคนอาจคิดว่ากรด โอเมก้า 3 ( Omega 3 ) ต้องมาจาก ไขมัน ในเนื้อสัตว์เท่านั้น แต่ที่แท้จริงแล้วในน้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันคาโนล่า น้ำมันรำข้าว ยังเป็นแหล่งของ กรดไขมัน แอลฟา ไลโนเลสิก ( ALA ) ซึ่งเป็น กรดไขมัน ไม่อิ่มตัวของกลุ่ม โอเมก้า 3 ( Omega 3 ) ที่สามารถสังเคราะห์เป็น กรดไขมัน EPA กรดไขมัน DHA ใน ร่างกาย ของทุกคน เราสามารถเลือกน้ำมันพืชเหล่านี้มาทำอาหารประเภทผัดได้ แทนการใช้น้ำมันจากเนื้อสัตว์ที่มี กรดไขมัน อิ่มตัวสูงกว่า
ปกติแล้วใน นมวัว จะมี กรดไขมัน โอเมก้า 3 ( Omega 3 ) ที่มีส่วนช่วยเรื่องการพัฒนาของระบบสมองของเรา แต่ปริมาณ โอเมก้า 3 ( Omega 3 ) ใน นมวัว จะเปลี่ยนแปลงไปตามสายพันธุ์ของวัว และ อาหารที่วัวได้ทานเข้าไป เพราะฉะนั้น นมสำหรับทุกคนจะมีการเสริม สารอาหาร อย่าง โอเมก้า 3 ( Omega 3 ) โอเมก้า 6 ( Omega 6 ) โอเมก้า 9 ( Omega 9 ) ที่มีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของเซลล์สมอง และการ สารสื่อประสาทลงไป เพื่อให้ได้มีปริมาณ โอเมก้า ในปริมาณี่แน่นอน
ปลาสวาย เป็นปลาน้ำจืดหนึ่งชนิดที่หลายคนอาจมองข้าม เนื้อปลาสวายใน 100 กรัม จะมี โอเมก้า 3 ( Omega 3 ) สูงถึง 2,111 มิลลิกรัม ซึ่งถือว่าเป็นปลาของไทยที่มี โอเมก้า 3 ( Omega 3 ) มากที่สุด
ใน ไข่แดง มี โอเมก้า 3 ( Omega 3 ) โดยเฉพาะ กรดไขมัน ชนิด แอลฟาไลโนเลสิก ( ALA ) สูง ซึ่งเป็น กรดไขมัน ตั้งต้นให้ ร่างกาย ได้สังเคราะห์ EPA และ DHA ที่ช่วยการกระตุ้นการทำงานของระบบประสาท และ ระบบภูมิคุ้มกัน และนอกจากนี้ใน ไข่แดง มี โคลีน ที่จะช่วยพัฒนาความจำ และ บำรุงสมอง ให้สามารถทำงานได้ดีขึ้น
อ่านบทความเพิ่มเติม
Tag :