การรับประทานอาหารที่มีกรดไขมัน โอเมก้า 3 ( Omega 3 ) อย่างเหมาะสมจะทำให้ร่างกายทำงานเป็นปกติ ซึ่งกรดไขมัน โอเมก้า 3 นั้นเป็นกรดไขมันจำเป็นแต่ไม่สามารถสร้างเองได้ จึงต้องรับจากการทานอาหารเท่านั้น
โอเมก้า 3 ( Omega 3 )
โอเมก้า 3 ( Omega 3 ) คือ กลุ่มของกรดไขมัน ไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว ซึ่งจำเป็นอย่างมากใน ระบบการทำงาน ต่าง ๆ ใน ร่างกาย ของเรา โอเมก้า 3 ( Omega 3 ) เป็นกรดไขมันที่ ร่างกายของเรา ไม่สามารถ สร้างเองได้ต้องได้รับจากการ รับประทานอาหารอื่น ๆ เช่น ปลา น้ำมันพืช แคปซูลน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ( coconut oil capsule ) ถั่ว ผักใบเขียว ฯลฯ
ประเภทของ โอเมก้า 3 ( Omega 3 )
1. กรดไขมันอีพีเอ และ กรดไขมันดีเอชเอ
กรดไขมันอีพีเอ และ กรดไขมันดีเอชเอ คือ กรดไขมัน สายยาวที่สร้างจาก กรดไขมันแอลฟาไลโนเลนิกที่อยู่ใน ร่างกายของเรา โดยที่กรดไขมันแอลฟาไลโนเลนิก จะถูกเปลี่ยนเป็น กรดไขมันอีพีเอ และ ดีเอชเอ ซึ่งกระบวนการที่ กล่าวมา ข้างต้นนั้นเกิดขึ้น ได้น้อยจึงควร บริโภคอาหาร หรือ อาหารเสริมอื่น ๆ ที่มีกรดไขมันอีพีเอ และดีเอชเอ เพื่อช่วยเพิ่ม ระดับของกรดไขมันทั้ง 2 ให้กับ ร่างกาย ของเรา อาหารที่อุดมไปด้วย กรดกรดไขมันอีพีเอ และ ดีเอชเอส่วนใหญ่ จะพบในปลา และ หอย
2. กรดไขมัน แอลฟาไลโนเลนิก
กรดไขมัน แอลฟาไลโนเลนิก คือ กรดไขมัน ที่สร้างกรดไขมัน โอเมก้า 3 ( Omega 3 ) ชนิดอื่นขึ้นมา โดย ร่างกายนั้นจะสร้างกรดนี้ เองไม่ได้ต้องรับจากการ รับประทานอาหาร ได้แก่ เมล็ดพืช น้ำมันพืช ถั่ว น้ำมันงาขี้ม่อน และ โอเมก้า 3 ( Omega 3 ) ยังสามารถหา รับประทานได้จาก อาหารเสริม หรือ แคปซูลน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ( coconut oil capsule ) ซึ่งถ้า รับประทาน ในปริมาณที่ เหมาะ สมกับร่างกาย ของเรา จะส่งผลดีต่อ ระบบการทำงาน ของร่างกาย
มาดูคุณประโยชน์ของ โอเมก้า 3 ( Omega 3 ) กันดีกว่า ว่ามีอะไรบ้าง ?
พบว่าการบริโภคปลา และ อาหารทะเลที่มีกรดไขมัน โอเมก้า 3 ( Omega 3 ) จะช่วยให้หัวใจแข็งแรง รวมทั้งป้องกันไม่ให้ป่วยเป็นโรคที่เกี่ยวกับหัวใจ เนื่องจากร่างกายได้รับกรดไขมันอีพีเอ และ กรดไขมันดีเอชเอที่ช่วยลดระดับไตรกลีเซอร์ไรด์
กรดไขมัน โอเมก้า 3 ( Omega 3 ) ช่วยในเรื่องพัฒนาการ และ สุขภาพของทารก โดยเฉพาะอย่างยิ่งดีเอชเอ มีความสำคัญในการพัฒนาระบบประสาท ระบบสายตา และ ระบบสมองของทารก สตรีมีครรภ์ หรือ ให้นมบุตรที่รับประทานปลา หรือ อาหารทะเลสัปดาห์ละประมาณ 220-280 กรัม ซึ่งช่วยเสริมสร้างสุขภาพทารก
ดังนั้น มารดาที่เสริม โอเมก้า 3 ( Omega 3 ) จะทำให้ทารกในครรภ์ได้รับกรดไขมันจำเป็นไปด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นควรบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ โดยควรปรึกษาจากแพทย์ก่อนทุกครั้ง
โรคนี้คือสาเหตุหลักที่ทำให้ตาบอดได้ โดยงานวิจัยบางชิ้นชี้ให้เห็นว่าผู้ที่รับประทานอาหารที่มี โอเมก้า 3 ( Omega 3 ) เป็นจำนวนมาก เสี่ยงเกิดจอประสาทตาเสื่อมน้อยลง
น้ำมันปลา โอเมก้า 3 ( Omega 3 ) มีประโยชน์อย่างมากมายในการเจริญเติบโตของเด็ก เช่น ช่วยพัฒนาการทำงานของสมอง และ จิตใจ เพิ่มสมาธิ ความจำระยะสั้น และ ทักษะในการอ่าน นอกเหนือจากนี้ ยังมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ช่วยปกป้องกระดูก ข้อ และ กล้ามเนื้อ
ในส่วนของความสวยความงามนั้น โอเมก้า 3 ( Omega 3 ) ช่วยให้ผิวเปล่งประกาย ดูสุขภาพดี โดยเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างเยื่อหุ้มเซลล์ ช่วยคงความชุ่มชื้น ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน และ เส้นใยอีลาสติน ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์
ยังมีปัญหาสุขภาพอื่น ๆ อีกมากมายที่ได้มีการวิจัยศึกษาคุณประโยชน์ของ โอเมก้า 3 ( Omega 3 ) ที่มีต่อปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคซึมเศร้า ลำไส้อักเสบเรื้อรัง โรคสมาธิสั้น อาการภูมิแพ้ของเด็ก และ โรคซิสติกไฟโบรซิส โดยประเด็นต่าง ๆ จำเป็นต้องทำการศึกษาเกี่ยวกับประโยชน์ของ โอเมก้า 3 ( Omega 3 ) ที่มีต่อปัญหาสุขภาพนั้น ๆ เพิ่มเติมต่อไป
จะเห็นได้ว่า โอเมก้า 3 ( Omega 3 ) เป็นไขมันดี มีความสำคัญต่อสุขภาพ และ มีประโยชน์มากมาย ช่วยทำให้สุขภาพภายในของเราดีขึ้น และ ยังส่งผลออกมาสู่ภายนอกอีกด้วย
สุขภาพที่ดี เริ่มได้ที่ตัวคุณ
ด้วยความปรารถนาดีจาก COCO MEGA 3 แคปซูลน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ตราแมนเนเจอร์ ( Organic Coconut Oil Capsule COCO MEGA 3 By ManNature )
Tag :